Support
Lelis Group
086-355-0761
Your shopping cart
ดูตะกร้าสินค้าของคุณ
ไม่มีสินค้าในตะกร้าของคุณ

กินเเคลเซียมต้องระวัง

lelisgroup@gmail.com | 11-04-2554 | เปิดดู 12874 | ความคิดเห็น 0

        

 

 

 

  เเคลเซียมเม็ด    โดยปกติจะทำมาจากแคลเซียมคาร์บอเนต ซึ่งเป็นหินปูนชนิดกินได้ โดยเเคลเซียมเม็ดนี้มักนิยมทำร่วมกับสิ่งอื่นๆ อาทิ แคลเซียมที่ทำร่วมกับกรด เช่น แคลเซียมซิเตรท ที่จะดูดซึมได้ดีกว่าชนิดหินปูนคาร์บอเนต หรือใส่วิตามินซีและวิตามินดีเข้าไปด้วย โดยเฉพาะแบบเม็ดฟู่ ซึ่งต้องระวังในคนที่เป็นโรคกระเพาะอาหาร 

        แต่แคลเซียมที่ต้องระวังอย่างมาก คือ แคลเซียมที่ซื้อมาในราคาถูกมาก เพราะอาจทำมาจากกระดูกวัว ควายป่น การกินเเคลเซียมประเภทนี้ร่างกายอาจได้รับสารตะกั่ว ปรอท และโลกะหนัก อื่นๆ ที่ทำจากหินปูนภูเขา ซึ่งร่างกายไม่สามารถดูดซึมได้ ก่อให้เกิดการสะสมเป็นนิ่ว ในไตได้ ส่วนเเคลเซียมเสริม ถ้ากินมากไปควรระวังการจับตัวเป็นนิ่วในไต นอกจากนั้นการกินแคลเซียมยังมีเคล็ดลับ ว่า อย่ากินร่วมกับผักที่มีผลึกออกซาลิกมาก  เพราะจะทำให้เกิดนิ่ว เช่น ใบชะพลู ขึ้นฉ่าย ยอดมะม่วงอ่อน และถ้าเป็นแคลเซียมเม็ด ให้เเบ่งกินเป็น 2 มื้อ เพราะจะดูุดซึมได้ดีกว่ากินพร้อมกันในเวลาเดียว  และถ้าวันใดกินอาหารอุดมด้วยแคลเซียมอยู่แล้ว  ก็ให้กินเพียงมื้อเดียวก็เพียงพอ  ซึ่งปริมาณการกินแคลเซียมที่เหมาะสมคือ วัยเด็ก วันละ 200 - 500 มิลลิกรัม วัยผู้ใหญ่  วันละ 1,000 มิลลิกรัม วัยทองกับวัยสตรีมีครรภ์ วันละ 1,200 มิลลิกรัม

 

         อย่างไรก็ตาม แคลเซียมเม็ดไม่ใช่สิ่งจำเป็น หากเรารับประทานอาหารถูกหลักโภชนาการอยู่แล้ว โดยอาหาร ที่มีแคลเซียมมากที่แนะนำ ได้แก่ งาดำ กะปิ กุ้งแห้ง ปลาแห้ง เต้าหู้ ส่วนที่เป็นผัก ก็เช่น พริก กระถิน ใบยอ กระเพรา โหระพา กระเจี๊ยบ ผัดกาดเขียว ผักกวางตุ้ง ปวยเล้ง คะน้า เป็นต้น

 

ความคิดเห็น

วันที่: Mon Apr 29 18:00:20 ICT 2024

แสดงความคิดเห็น
All Comments: 0 Pages: 1/0

ครีมทาฝ้า ครีมบำรุงผิวหน้า  Lelis ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวประสิทธิภาพสูงจากอเมริกา ด่วน! ทดลองผลิตภัณฑ์ฟรี ที่บู๊ธเลอลิสทุกสาขา ท้าพิสูจน์ได้ผลจริงใน 5 นาที ติดต่อสอบถามโทร คุณภัทรานิษฐ์ 086-355-0761,  0863204522